RFID เทคโนโลยีคลื่นวิทยุสุดอัจฉริยะ

RFID (คลื่นสัญญาณวิทยุ)
RFID ย่อมาจาก Radio Frequency Identification ถูกสร้างมาตอนปี ค.ศ. 1980 โดย Leon Theremin สร้างมาเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องมือดักจับสัญญาณ แต่ในปัจจุบันได้พัฒนาและกลายเป็นป้ายอิเล็กทรอนิกส์ (RFID Tag) สำหรับรับและส่งสัญญาณคลื่นความถี่วิทยุและสร้างพลังงาน หลักการทำงานของเทคโนโลยีอาร์เอฟไอดี จะใช้การสื่อสารระหว่างแท็กและตัวอ่านข้อมูลจะเป็นการสื่อสารกันโดยอาศัยช่องความถี่วิทยุ ผ่านอากาศ ซึ่งสัญญาณนี้ผ่านได้ทั้ง โลหะ และอโลหะ แต่แท็กไม่สามารถติดต่อกับเครื่องอ่านให้อ่านได้โดยตรง เมื่อเครื่องอ่านส่งข้อมูลผ่านความถี่วิทยุ แสดงถึงความต้องการข้อมูลที่ถูกระบุไว้จากป้าย ป้ายจะตอบข้อมูลกลับ และเครื่องอ่านจะส่งข้อมูลต่อไปยังส่วนประมวลผลหลักของคอมพิวเตอร์ โดยเครื่องอ่านจะติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์โดยผ่านสายเครือข่าย Lan (Loco Area Network ) หรือส่งผ่านทางความถี่วิทยุจากทั้งอุปกรณ์มีสายและอุปกรณ์ไร้สาย

RFID Tag คืออะไร

RFID Tag เป็นระบบติดตามประเภทหนึ่งที่ใช้ความถี่วิทยุในการค้นหา ระบุ ติดตาม และสื่อสารกับสิ่งของและผู้คน โดยพื้นฐานแล้ว RFID Tag เป็นฉลากอัจฉริยะที่สามารถจัดเก็บข้อมูลได้หลากหลายตั้งแต่หมายเลขซีเรียล ไปจนถึงคำอธิบายสั้นๆ และแม้แต่หน้าข้อมูล RFID Tag บางส่วนมีคุณสมบัติการรักษาความปลอดภัยการเข้ารหัสสำหรับการตรวจสอบและรับรองความถูกต้องในระดับสูง RFID Tag มักจะระบุด้วยความถี่วิทยุ 3 ชนิดได้แก่

1.ระบบ LF (low frequency) มีช่วงระหว่าง 30 ถึง 300 KHz และช่วงการอ่านสูงสุด 10 ซม. ระบบเหล่านี้มักใช้ในแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น การควบคุมการเข้าออกและการเฝ้าติดตามปศุสัตว์
2.ระบบ HF (high frequency) มีช่วงระหว่าง 3 ถึง 30 MHz และช่วงการอ่านตั้งแต่ 10 ซม. ถึง 1 ม. (3 ฟุต) ระบบเหล่านี้มักใช้สำหรับตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงิน หรือแอปพลิเคชันทั่วไป
3.ระบบ UHF (ultra-high frequency) มีช่วงระหว่าง 300 MHz ถึง 3 GHz และช่วงการอ่านสูงสุด 12 ม. (39 ฟุต) เหล่านี้เป็นระบบที่ใช้กันมากที่สุดในการติดตามสินค้าคงคลังของร้านค้าปลีก โรงจอดรถ การเข้าถึงประตู และการจัดการสินทรัพย์

ประเภทของ RFID Tag
1.Passive tag เป็น tag ที่ไม่มีแหล่งจ่ายไฟของตัวเอง แต่จะใช้พลังงาน RF โดยระยะการอ่านขึ้นอยู่กับความแรงของเครื่องส่งและคลื่นความถี่วิทยุ เนื่องจากใช้พลังงานต่ำกว่า Passive tag จึงมีช่วงที่สั้นกว่าแท็กอื่นๆ แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดเล็กกว่า เบากว่า และราคาถูกกว่าแท็กอื่นๆ
2. Active Tag เป็นแท็ก RFID ที่ มีแบตเตอรี่ในตัว สำหรับนำไปใช้งานกับเครื่องอ่านประเภท RFID Active Reader สื่อสารได้ไกลกว่า RFID Tag ประเภทอื่นq แต่มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่จำกัด และโดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดใหญ่กว่าและมีราคาแพงกว่า เนื่องจาก RFID Tag เหล่านี้มีแหล่งจ่ายไฟภายในจึงสามารถตอบสนองต่อสัญญาณพลังงานที่ต่ำกว่า Passive tag

การใช้งาน RFID ดีอย่างไร
RFID ช่วยให้ธุรกิจทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยและให้ผลลัพธ์ที่ดี มีตัวเลือกมากมาย รวมถึงบัตรเข้าใช้งานจริง อินเลย์ แท็ก ฉลาก หรือโซลูชันแบบไม่สัมผัส และจะสามารถเปลี่ยนแท็ก RFID ให้เป็นตราประทับอัจฉริยะได้ ซึ่งรวมถึงแท็ก RFID ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำที่สุดในอุตสาหกรรม