ข้อดีมีเพียบ! การจัดการบริหารงานขายด้วยระบบ CRM

     ระบบ CRM หรือโปรแกรม CRM ชื่อเต็มๆคือ Customer Relationship Management เริ่มมากจากการค้าขายที่ยังไม่มีเทคโนโลยีเข้ามา เป็นการใช้การจดจำลูกค้าเป็นรายคน และก็เริ่มพัฒนาเป็นสมุดเพื่อไว้จดบันทึกข้อมูล ต่อมาธุรกิจมีการขยายตัว เลยพัฒนาเป็นการทำบัตรสมาชิก เพื่อเก็บข้อมูลของลูกค้า เพราะธุรกิจใหญ่เกินกว่าที่พนักงานจะจดจดข้อมูลของลูกค้าได้ทั่วถึง ปัญหาธุรกิจคือลูกค้าสนใจจำนวนมากทำให้บางจุดไม่สามารตอบลูกค้าได้ทั่วถึงอาจจะเพราะความหลงลืมและการจัดการที่ไม่เป็นระบบ ส่งผลให้ลูกค้าที่เข้ามาหลุดไป การใช้วิธีจดจำโดยฝ่ายขาย จะตรวจสอบไม่ได้เลยว่าฝ่ายขายคุยกับลูกค้าว่าอย่างไร และเกิดปัญหาหลายอย่างตามมา

บริหารงานขายได้แบบไม่สะดุด

สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้อย่างละเอียด ชื่อ นามสกุล อีเมลล์ เบอร์ติดต่อ ข้อมูลสินค้าที่ลูกค้าสนใจ สินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อ ประวัติที่เรียกดูย้อนหลังได้ทั้งหมด ทำให้ฝ่ายขายสามารถเสนอสินค้าที่เหมาะสมต่อความต้องการลูกค้า อีกทั้งยังช่วยเช็คสินค้าในคลัง และขั้นตอนการชำระเงิน ที่สะดวกสบายอีกด้วย และยังช่วยบันทึก คำติชม และข้อเสนอแนะการบริการจากลูกค้า เพื่อเก็บมาปรับปรุงให้ดีขึ้น 

วิเคราะห์ลูกค้าใหม่

 โดยสามารถใช้ระบบช่วยในการวิเคราะห์และคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยวางแผนการตลาด ขยายตลาด และสร้างกลยุทธ์ ทำให้องค์กรรักษาฐานลูกค้าเดิมและเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้อย่างง่ายดาย

คัดกรองลูกค้าอย่างเป็นระบบ
จัดกลุ่ม ระบุแหล่งที่มา พร้อมจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าได้ ในการบันทึกข้อมูล Lead ผู้ใช้สามารถใส่รายละเอียดความสนใจสินค้าของ Lead ทั้งข้อมูลสินค้า จำนวน และราคารวม (มูลค่าการซื้อ) เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการ คัดกรองลูกค้า Lead ไปเปิดโอกาสทางการขาย หรือลูกค้า Account
 
ไม่พลาดทุกโอกาสทางการขาย
ในการปิดการขาย ผู้ใช้สามารถกำหนดกระบวนการขาย %ความสำเร็จที่จะปิดการขาย และกิจกรรมที่ต้องดำเนินการให้เป็นมาตรฐาน ร่วมกันได้ แต่ละโอกาสทางการขายจะมียอดประมาณการรายได้ที่จะเกิดขึ้นเมื่อ ปิดการขายสำเร็จ ทำให้ผู้ใช้สามารถพยากรณ์ยอดขาย อีกทั้งหากมียอดขายถึงเป้าที่ตั้งไว้ ระบบก็จะแจ้งเตือน Big Deal ให้ผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบอีกด้วย